Wednesday, February 28, 2007

COMMUNICATION DESIGN 4


Portfolio Communication Design 4

ชื่อ นายมารุต สุขตลอดชีพ
ID# 1470801976
นักศึกษาชั้นปี 3/2549
คณะ ศิลปะกรรมศาสตร์
สาขา ออกแบบนิเทศศิลป์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
Blog นี้เป็นการรวมงาน communication desing 4 ที่เรียนมาตลอด 1 เทอม
- ALL ABOUT ALAN FLETCHER
- EXPERIMENTAL DESIGN
- NIGHT LIGHT
ALAN FLETCHER
Alan Fletcher ทำงานทางด้าน graphic designer มานานกว่า 55 ปี ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2006 โดยก่อนหน้านั้นก็ได้ฝากผลงานที่ยิ่งใหญ่ไว้อย่างมากมายซึ่งผลงานทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ในพิพิธภัณฑ์ และจะมีการจัดนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงผลงานเก่าๆที่มีคุณค่าเหล่านั้นในวันที่ 11 พฤศจิกาย 2006 เพื่อเฉลิมฉลองผลงานที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลต่อวงการ graphic designer ของอังกฤษ เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Fletcher/Forbes/Gill studio ขึ้นในปี 1960 และ
Pentagram ในปี 1970 และยังได้แต่งหนังสือต่างๆที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและเรื่องราวน่าตื่นตาตื่นใจบนความคิดที่ยิ่งใหญ่ไว้มากมายเช่น Designed to be open at random, The Art of Looking Sideways, Alan Fletcher’s 2001 book เป็นต้น นักเรียนและนักออกแบบต่างๆก็ใช้เป็นต้นแบบในการคิด และเป็นสิ่งกระตุ้นในการผ่านปัญหาต่างๆ ความคิดที่ยิ่งใหญ่ของเขามีส่วนในการรวมกันระหว่างวัฒนธรรมยุโรปกับอเมริกาเหนือ จนทำให้เกิดประเพณีใหม่ที่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นระบบมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกให้เกิดอิสรภาพแก่วงการ graphic design ในอังกฤษอีกด้วย โดยมีการหาหุ้นส่วนใน Pentagram เพื่อให้เกิดห้างหุ้นส่วนที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่าอิสระ
นอกจากนี้เขายังพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ที่มีแบบแผนและงานต่อการจดจำ
เขาเกิด
ที่เคนยา และได้ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษกับแม่หลังจากพ่อได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลง โดยอาศัยอยู่ในย่านตะวันตกของกรุงลอนดอน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่เพื่อนๆล้วนอยากเป็นทหารและนายธนาคารด้วยกันทั้งนั้น ต่อมาได้ตัดสินย้ายมาเรียนที่ Hammersmith School of Art และ Central School ตามลำดับ และได้พบกับ Colin Forbes และ Theo Crosby หลังจบการศึกษาที่ Central School แล้วได้ไปสอนภาษาอังกฤษที่บาร์เซโลนา จนได้ตำแหน่งที่ Royal College of Art
หลังจากนั้นได้ทุนไปเรียนต่อที่ Yale University ในสาขา graphic design และได้แต่งงานกับสาวชาวอิตาเลียนที่นั่นเขาได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนนักออกแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่น Robert Brownjohn, Tom Geismar ที่นิวยอร์กอีกด้วย หลังจากเรียนจบก็เริ่มเดินทางไปละตินอเมริกา แต่ก็ต้องมาหยุดอยู่ที
ลอสแองเจลิสเพื่อหาเงินในการเดินทาง เขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยของนักออกแบบท่านหนึ่งชื่อ Saul Bass อยู่ระยะหนึ่ง เขารักที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา แต่ภรรยาของเขาอยากอยู่ในยุโรปมากกว่า จากนั้นได้เดินทางไปเวเนซุเอลา แต่โชคไม่ดีที่ไปตรงกับการปฏิวัติพอดีเขาจึงเดินทางไปลอนดอนโดยใช้เส้นทางผ่านเมือง
มิลาน ระหว่างพักอาศัยระยะสั้นๆในอิตาลีเขาได้ทำงานใน Pirelli design studio และต่อมาพบว่าอังกฤษกำลังตกอยู่ในยุคมืดจึงย้ายกลับไปอเมริกาและทำงานร่วมกับ Colin Forbes หลังจากนั้นเขาและ Forbes ได้สร้างสัมพันธภาพกับ Bob Gill และสตูดิโอที่พวกเขาร่วมกันสร้างขึ้นก็เริ่มมีชื่อเสียง และวงการ graphic design ในลอนดอนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการเข้ามาของนักออกแบบชื่อดังชาวอเมริกา เช่น Gill, Bob Brooks เป็นต้น ในปี 1963 Bob Gill ได้ออกจากบริษัทไป แต่ก็ได้ Crosby เข้ามาแทน หลังจากนั้นเขาก็ได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำออกมาอีกเรื่อยๆ


ประวัติ Alan Fletcher
1931 เกิดที่เคนยา
1936 ย้ายมาอยู่อังกฤษ
1941 เข้าโรงเรียนประจำที่ Christ’s Hospital boarding school
1953 ศึกษาต่อที่ Royal College of Art
1956 ได้รับทุนศึกษาต่อที่ Yale University’s School of Architecture and Design
1959 เดินทางกลับลอนดอน และแวะทำงานระยะสั้นๆที่ Pirelli ในเมืองมิลาน
1962 ก่อตั้ง Fletcher/Forbes/Gill studio
1965 Bob Gill ออกจากบริษัท และได้ Theo Crosby เข้ามาแทน
1972 ก่อตั้ง Pentagram กับ Crosby, Forbes, Kenneth Grange, Mervyn Kurlansky
1974 ได้ John McConnell เข้าร่วมงานใน Pentagram
1992 ออกจาก Pentagram และตั้งสตูดิโอขึ้นที่ Notting Hill
1994 เป็นที่ปรึกษาให้ Phaidon Press2006 เสียชีวิต


ตัวอย่างผลงานของ Alan Fletcher



ผลงานต่างๆของเค้ามักจะมีการเล่นกับความคิดของผู้ชม คือผู้ชมสามารถตีความตามความคิดของตนหรือตามประสบการณ์ที่ได้พบมาในแต่ละคน ซึ่งนี่คือสเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของAlan Fletcher เพราะมันเหมือนกับทำให้งานของเค้าดูมีชีวิตชีวากว่างานที่นิ่งๆ และผมก็คิดว่างานมันมีสเน่ห์มากเมื่อได้เล่นกับผู้ชม

EXPERIMENTAL DESIGN
งานทดลองในมุมมองด้าน ภาวะวิสัย กับ อวิสัย ในความหมายของ เปลือกกับแก่น โดยการนำความหมายของคำที่ทุกคนเข้าใจในทางเดียวกัน แต่นำมาเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาโดยการเปลี่ยน font หน้าตาต่างๆ ไปในทางด้านตรงข้ามหรือให้อาหรณ์ความรู้สึกร่วมไปกับความหมายของคำนั้นๆ




-สรุปงาน จากการทดลอง เปลือกเปรียบเหมือนรูปร่างหน้าตาเสื้อผ้าที่ช่วยให้ความหมายของคำเป็นไปในทางที่ต้องการสื่อออกไป แก่นเปรียบเหมือนแนวความคิดที่จะสื่อความหมายออกไป


NIGHT LIGHT at siam square
งานนี้เป็นการตัดทอน สถานที่ siam square โดยเลือกช่วงเวลากลางคืน งานจะตัดทอนใช้ภาพที่เห็นในสภาวะแวดล้อมที่เห็นอยู่ เหลือเพียงแค่แหล่งที่ให้แสงไฟเท่านั้น และจะต้องสื่อให้รู้ว่ายังคงเป็นสถานที่ siam square อยู่เช่นเดิม


ภาพจริง siam square


ภาพที่ตัดทอนแล้ว

siam square box




ด้านในกล่อง


-สรุปงาน ถึงแม้จะถูกตัดทอนเหลือเพียงแค่ป้ายไฟแต่ก็ยังคงทำให้คนดูรู้สึกว่าเป็น siam square ได้